Gone for Good (2021) หาย
ซีรี่ย์ระทึกขวัญที่ดูแล้วซับซ้อนให้คนดูได้ช่วยแก้ปมกับเรื่อง Gone for Good (2021) หาย เป็นผลงานการกำกับของ ดาวิด เอลคาอีม,แวงซองต์ พอยมีโร,ฮาร์ลาน โคเบน ที่ถ่ายทอดเรื่องราว สิบปีหลังจากสูญเสียผู้เป็นที่รักไปถึงสองคน ชายคนหนึ่งถลำเข้าไปพัวพันกับปริศนา เมื่อแฟนสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สร้างจากนิยายของฮาร์ลาน โคเบน
นักแสดงนำ
* ฟินนิแกน โอลด์ฟิลด์
* นิโคลา ดูโวแชลล์
* กิลยอม กวิกซ์
Gone for Good เรื่องราวของ “กีโยม” ถูก “จูดิธ” แฟนทิ้งหายไปหลังเขาขอแต่งงานแบบเป็นปริศนาคาใจ ทำให้เขาต้องออกสืบหาแฟนสาวที่หายไปก่อนพบความลับบางอย่างที่ย้อนกลับยังเรื่องในอดีตที่แฟนสาวคนแรกของเขาตายในสระน้ำในบ้านของตัวเอง พร้อมกับพี่ชายถูกยิงตกหน้าผาตายจากคนร้ายปริศนา ซึ่งบอกตรงๆ ว่าสำหรับแฟนโคเบนอาจจะเริ่มเบื่อได้ที่เนื้อเรื่องยังเป็นสูตรสำเร็จเดิมๆ ไม่แตกต่าง แต่ก็ต้องบอกว่าถ้าตัวเรื่องมันทำได้ดี มีความลับซับซ้อนน่าสนใจ มีประเด็นในการเล่นที่ฉีกแตกต่างออกไป สูตรสำเร็จนี้มันก็ยังสามารถใช้ได้ดีอยู่ ดูได้จากผลงานที่ผ่านๆ มา แม้อาจจะมีบางเรื่องอย่าง Wood (พราง) ที่ดรอปลงไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นแย่อะไรนัก แต่เรื่องนี้กลับแย่กว่าตรงที่นอกจะซ้ำรอยเดิมๆ ที่เดาได้ หรือไม่ต้องเดาก็ได้เพราะคนดูรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายแนวเรื่องของโคเบนมันจะจบประมาณไหน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่หายไปมักจะมีอดีตซุกซ่อนเยอะแยะ พอตามเจอก็กลายเป็นคนดี ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรออกไปเลย
แต่สิ่งที่แย่กว่าการเดาได้จากสูตรการเดินเรื่องแบบเดิมๆ นั่นคือซีรีส์เรื่องนี้มีปมหลักที่อ่อนมาก แม้เรื่องราวจะพยายามวางให้ซับซ้อน แต่พอเฉลยแล้วแทบไม่รู้สึกว่าซับซ้อนอะไรเลย เป็นเรื่องที่มีความขัดแย้งทั่วไป ไม่ใช่ระดับของอาชญากรรมใหญ่โตหรือซับซ้อนอะไรมากแบบเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาเลย แม้อาจจะมีการบิ้วความขัดแย้งในครอบครัวที่ดูรุนแรง แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกพีคอะไรเลยจริงๆ กับบทเฉลยของเรื่องนี้ คือมันเดาได้แบบง่ายๆ ว่าตอนจบพระเอกจะทำอะไรลงไปเพื่อปิดปมขัดแย้งนี้ และด้วยปมหลักที่อ่อนมากนี้เองจึงทำให้ตัวเรื่องต้องพยายามใส่นั่นนี่เข้ามายืดเวลาในการเดินเรื่องมากไป ทั้งๆ ที่ซีรีส์มีเพียงแค่ 5 ตอนจบที่สั้นสุดๆ ถ้าเทียบกับโคเบนเรื่องอื่นๆ ที่จบใน 8 ตอนมาตรฐาน แต่ขนาดที่ 5 ตอนเนื้อเรื่องก็ยังไม่กระชับ แถมยังเลือกเล่าตอนละ 1 ตัวละครแบบไม่จริง คือแค่แซมๆ ตัดสลับอดีตของตัวละครนั้นมาเท่านั้น ไม่ใช่การเล่าเรื่องเต็มๆ เข้มข้น ซึ่งระหว่างทางตั้งแต่แรกก็เล่าแบบตัดสลับอดีตปัจจุบันสลับตอนกันอยู่แล้ว โดยใช้ชื่อเมืองกับปีเป็นตัวบอกว่านี่คืออดีต จุดนี้ก็ทำออกมาไม่ดี เพราะไม่ได้มีความเชื่อมโยงอะไรกับปัจจุบันสักเท่าไหร่ นึกอยากจะตัดสลับก็ตัดแฟลชแบ็คไปๆ มาๆ จนบางทีดูแล้วชวนงงมากกว่าจะทำให้เข้าใจเรื่องด้วยซ้ำ จนทำให้มีปัญหาการเล่าเรื่องไม่สมูธเพิ่มมาอีก
ติดตาม อนิเมะญี่ปุ่นสุดฮิต ซีรี่ย์อนิเมะ ได้แล้วที่นี้






Comments
Post a Comment